การนวดไทยโดยทั้ว ๆ ไป

มี ๒ สาย คือ
๑ การนวดสายเชลยศักดิ์ เป็นการนวดเน้นการช่วยเหลือกันเองในครอบครัวหรือในชุมชน เช่น สามีนวดให้ภรรยา ลูกนวดให้พ่อแม่ช่วยให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สร้างความใกล้ชิด เอาใจใส่ซึ่งกันและกันนับเป็นการพึ่งตนเองของประชาชนได้
เป็นอย่างดี การนวดสายนี้ ไม่เพียงแต่ใช้มือเท่านั้น ยังใช้อวัยวะส่วนอื่นอีก เช่น ศอก ท่อนแขน ส้นเท้า หรือการนั่งดัดตัวผู้ป่วย ซึ่งเป็นการผ่อนแรงของผู้นวด และมักใช้เวลา ในการนวดมากทำให้ผู้ถูกนวดรู้สึกสบายจนอาจหลับไป 
การนวดแบบนี้พบได้ทั่วไปในชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทและได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมไทยปัจจุบัน
๒. การนวดสายราชสำนัก เป็นการนวดไทยที่ใช้ในพระราชวัง ดังนั้นท่าต่าง ๆ ในการนวดจึงได้รับการพัฒนา ให้สุขภาพและมักนวดด้วยนิ้วมือเท่านั้นเพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนักในการนวดไม่ให้มากเกินไป และไม่ให้เป็นที่ ล่วงเกินต่อพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ จนมีคำกล่าวว่า "แม้เพียงลมหายใจก็ไม่ให้แตะต้องพระวรกาย" โดยมีองศามาตราส่วนของการนวดที่ไม่ประชิดตัวมากและจะหันหน้าตรงไป ไม่ก้มหน้าหายใจรดพระองค์ และไม่เงยหน้าจนเป็นการไม่เคารพ
     การนวดไทยเป็นที่นิยมและยอมรับมากในสมัยโบราณ และเป็นผู้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจของพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นจนได้รับการแต่งตั้งให้มีกรมหมอนวดซ้าย และกรมหมอนวดขวา ทำให้หมอนวดสามารถรับราชการอยู่ในตำแหน่งระดับสูงได้
     ปัจจุบันมีผู้สิบทอดการนวดแบบนี้น้อยมาก เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายทอดกันในครอบครัว และผู้รู้มักหวงวิชา ทำให้การนวดสายนี้ได้รับการถ่ายทอดกระท่อนกระแท่นเต็มที
     การนวดไทยนี้ มีคุณค่าต่อการพึ่งตนเองเป็นอย่่างมาก สามารถบรรเทาโรคและอาการปวดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในความรู้สึกของผู้รับบริการ เช่น อาหารปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อลดการติดขัดของข้อต่อ ช่วยกระตุ้นกล้างเนื้อที่อ่อนแรง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การนวดที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นการซ้ำเติมหรือเพิ่มการบาดเจ็บได้ ฉะนั้นผู้ที่จะนำการนวดไปใช้ จึงควรมีความรู้ในการใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่่างแท้จริง

No comments:

Post a Comment